วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2559

หน้าหลัก


คำนำ


  Biogger (บล็อกเกอร์) เรื่องนี้จัดทำเกี่ยวกับเรื่อง Social network (โซเชียลเน็ตเวิร์ค) 
และเป็นส่วนหนึ่งของวิชา คอมพิวเตอร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2 เพื่อให้ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่อง
Social network (โซเชียลเน็ตเวิร์ค) และได้ศึกษาอย่างเข้าใจเพื่อเป็นประโยชน์กับการเรียน
                 ผู้จัดทำหวังว่า   Biogger (บล็อกเกอร์) เรื่องนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านหรือนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังหาข้อมูลในเรื่อง Social network (โซเชียลเน็ตเวิร์ค) นี้อยู่ หากมีข้อแนะนำ หรือข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขอน้อมรับไว้และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย


ผู้จัดทำ             

เด็กหญิง ศิรินภา ตุ้มคำอู่ 
วันที่ 15 ธันวาคม 2558  

ความรู้ของโซเชียลเน็ตเวิร์ค


โซเชียลเน็ตเวิร์ค




โซเชียลเน็ตเวิร์ค คือ

   โซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือ Social Network คือเครือข่ายสังคมออนไลน์  หรือการที่ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตคนหนึ่ง เชื่อมโยงกับเพื่อนอีกนับสิบ รวมไปถึงเพื่อนของเพื่อนอีกนับร้อย  ผ่านผู้ให้บริการด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) บนอินเตอร์เน็ต เช่น Facebook, Blogger, Hi5, Twitter หรือ Tagged เป็นต้น (บางเว็บไซต์ที่กล่าวถึงในตัวอย่าง ปัจจุบันนี้ได้เสื่อมความนิยมแล้ว)  การเชื่อมโยงดังกล่าว ทำให้เกิดเครือข่ายขึ้น เช่น เราสามารถรู้จักเพื่อนของเพื่อนเราได้  เป็นทอดๆ ต่อไปเรื่อย  ทำให้เกิดสังคมเสมือนจริงขึ้นมา  สามารถสร้างคอนเน็คชั่นใหม่ๆ ได้ง่าย  และเมื่อเราแชร์ (Share) ข้อความหรืออะไรก็ตามลงไปในเครือข่าย  ทุกคนในเครือข่ายก็สามารถรับรู้ได้พร้อมกัน  และสามารถตอบสนองต่อสิ่งที่เราแชร์ได้  เช่น  แสดงความคิดเห็น (Comment)  กดไลค์ (Like) ซึ่งอาจจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละผู้ให้บริการ  ความโดดเด่นในเรื่องความง่ายของโซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) ทำให้ธุรกิจ และนักการตลาดสนใจที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์สินค้า และบริการ



โซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) ตามวัตถุประสงค์ในการใช้งานแบ่งได้เป็น


  1. เผยแพร่ตัวตน(Identity Network) เป็นเว็บไซต์โซเชียลที่มุ่งเน้นการนำเสนอตัวตนของผู้ใช้งานเรื่องราวของตัวเอง ภาพถ่ายของตัวเอง สิ่งที่ตัวเองชอบ หรือว่าสนใจ ความคิดเห็น ความรู้สึกที่มีต่อสิ่งต่างๆ เว็บที่มีลักษณะดังกล่าว ได้แก่ Facebook, Myspace เป็นต้น
   2. เผยแพร่ผลงาน (Creative Network) เป็นเว็บไซต์ที่เน้นไปที่ผลงานของเจ้าของเว็บ มากกว่าตัวตนของเจ้าของผลงาน  ส่วนมากเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์คประเภทนี้  มักรวมผู้ที่ทำงานประเภทเดียวกันไว้ด้วยกัน  เช่น  เว็บรวมนักเขียนนิยาย  เว็บรวมคนรักการถ่ายภาพ  เว็บรวมนักออกแบบกราฟิก ฯลฯ  ซึ่งการสร้างเครือข่ายลักษณะนี้มักใช้ในการหาลูกค้า หรือเพื่อนร่วมอาชีพเป็นสำคัญ เช่น Coroflot, flickr, Multiply, DevianART เป็นต้น
   3. ความสนใจตรงกัน (Interested Network)  เว็บไซต์ประเภทนี้คล้ายๆ กับเว็บเผยแพร่ผลงาน  คือ รวบรวมผู้ที่สนใจในเรื่องเดียวกันมาไว้ด้วยกัน แต่ต่างกันที่ Interested Network เจ้าของเว็บไม่ต้องเป็นเจ้าของผลงาน แค่แชร์ลิ้งค์ หรือเว็บที่ตัวเองสนใจ เช่น Pinterest, del.licio.us, Digg, Zickr เป็นต้น
   4. โลกเสมือน (Virtual life / Game online) เป็นลักษณะการจำลองตัวของผู้ใช้งานเป็นตัวละครตัวหนึ่งในเกม หรือสถานการณ์สมมุติ โดยมีเรื่องราว หรือภาระกิจให้ปฏิบัติ โดยอาจจะปฏิบัติโดยลำพังแข่งกับผู้เล่นคนอื่นหรือร่วมกันเป็นทีมก็ได้โดยในระหว่างเล่นสามารถพูดคุยหรือสื่อสารกับผู้เล่นอื่นๆได้ ทำให้มีลักษณะเป็น Social Network แบบหนึ่ง  เช่น Second Life, The SIM เป็นต้น

การทำงานของโซเชียลเน็ตเวิร์ค คือ

 การทำงานคือ คอมพิวเตอร์เก็บข้อมูลพวกนี้ไว้ในรูปฐานข้อมูล sql ส่วน video หรือ รูปภาพ อาจเก็บเป็น ไฟล์ก็ได้ บริการเครือข่ายสังคมที่เป็นที่นิยมได้แก่ ไฮไฟฟ์ มายสเปซ เฟซบุ๊ก ออร์กัต มัลติ  พลาย โดยเว็บเหล่านี้มีผู้ใช้มากมาย เช่น เฟสบุ๊คเป็นเว็บไซต์ที่คนไทยใช้มากที่สุด ในขณะที่ออร์กัตเป็นที่นิยมมากที่สุดในประเทศอินเดีย 

Facebook

Facebook


Facebook คือ



 Facebook คือ บริการบนอินเทอร์เน็ตบริการหนึ่ง ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารและร่วมทำกิจกรรมใดกิจกรรม หนึ่งหรือหลายๆ กิจกรรมกับผู้ใช้ Facebook คนอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งประเด็นถามตอบในเรื่องที่สนใจ โพสต์รูปภาพ โพสต์คลิปวิดีโอ  เขียนบทความหรือบล็อก แชทคุยกันแบบสดๆ  เล่นเกมส์แบบเป็นกลุ่ม (เป็นที่นิยมกันอย่างมาก) และยังสามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ผ่านแอพลิเคชั่นเสริม (Applications) ที่มีอยู่อย่างมากมาย ซึ่งแอพลิเคชั่นดังกล่าวได้ถูกพัฒนาเข้ามาเพิ่ม เติมอยู่เรื่อยๆ

   Facebook เป็น social network ที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งถ้าในต่างประเทศ ความยิ่งใหญ่ของ facebook มีมากกว่า Hi5 เสียอีก แต่ในประเทศไทยของเรา Hi5 ยังครองความเป็นเจ้าในด้าน social network ในหมู่คนไทย




ประวัติความเป็นมาของ facebook



    Mark Zuckerburg
   ได้เปิดตัวเว็บไซต์ facebook เมื่อปี 2548

เมื่อวันที่4กุมภาพันธ์ปีพุทธศักราช 2548 
Mark Zuckerburgได้เปิดตัวเว็บไซต์ facebook ซึ่งเป็นเว็บประเภท socialnetwork ซึ่งตอนนั้น เปิดให้เข้าใช้เฉพาะนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดเท่านั้นและเว็บนี้ก็ดังขึ้นมาในชั่วพริบตา เพียงเปิดตัวได้สองสัปดาห์ครึ่งหนึ่งของนักศึกษาที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดก็สมัครเป็นสมาชิกfacebookเพื่อเข้าใช้งานกันอย่างล้นหลาม และเมื่อทราบข่าวนี้มหาวิทยาลัยอื่นๆในเขตบอสตั้นก็เริ่มมีความต้องการและอยากขอเข้าใช้งาน facebook บ้างเหมือนกัน มาร์คจึงได้ชักชวนเพื่อของเค้าที่ชื่อ Dustin Moskowitz และ Christ Hughes เพื่อช่วยกันสร้าง facebook และเพียงระยะเวลา 4 เดือนหลังจากนั้น facebook จึงได้เพิ่มรายชื่อและสมาชิกของมหาวิทยาลัยอีก 30 กว่าแห่ง


ขั้นตอนการสมัคร

      1.  กรอกรายละเอียด ได้แก่ ชื่อและนามสกุลที่ท่านต้องการใช้ ใส่อีเมล์ ตั้งรหัสผ่าน ใส่วัน เดือน ปี              เกิด และกด “ลงทะเบียน” 
  

      2. กรอกข้อความให้ตรงกับภาพที่ปรากฎ และกด “ลงทะเบียน”



      3. หลังจากนั้น ระบบจะให้เราทำการยืนยันอีเมล์ว่าถูกต้องจริงหรือไม่

      4. เมื่อเข้าไปสู่เมล์ของเรา ให้เข้าไปที่ “กล่องขาเข้า” แล้วเปิดเมล์ที่ Facebook ส่งมาให้ เพื่อยืนยัน           การสมัคร


     5. วิธีการค้นหาเพื่อนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อ (Address Book) ของเราทำได้โดยคลิ๊กคำว่า "ค้นหา                 เพื่อน"



                        




      6. ทำการใส่ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ  เมื่อเรากรอกข้อมูลส่วนตัวเช่นสถาบันการศึกษา หรือบริษัทที่เราทา           งานอยู่ ให้กด “บันทึก”
      เนื่องจากเราใส่ชื่อมหาวิทยาลัย ระบบจึงทาการค้นหาคนที่ได้ใส่ข้อมูลมหาลัย เราสามารถขอ “เพิ่ม   เป็นเพื่อน” โดยการกดที่รูปที่เราต้องการ จะมีเครื่องหมายขึ้นมาดังภาพ หลังจากนั้นให้เรากด “เพิ่มเป็น   เพื่อน”

      ถ้าเรายังไม่มีรายชื่อเพื่อนในเครือข่าย เราสามารถทาการค้นหาคนที่เรารู้จัก หรือเราสามารถชวน          เพื่อน  ของเราที่ยังไม่เคยใช้งาน facebook เข้ามาเป็นเครือข่ายของเราได้







     บน Facebook นั้น เราสามารถที่จะทำการอัพเดทสถานะของตัวเราเองได้ด้วยว่า ในตอนนี้เรากำลังทำอะไร อยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ก็ได้ ซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ที่ดีอีกข้อนึงเลยทีเดียว สำหรับเว็บเครือข่ายสังคม Facebook

      7. อัพโหลดรูปถ่ายของท่านลงในหน้า facebook ของท่านได้โดยเลือก อัพโหลดรูปภาพ






      8. เมื่อผ่านกระบวนการดังกล่าวข้างต้น ก็สามารถเริ่มต้นการใช้งานได้เลย





หน้าแรก facebook ของท่านที่พร้อมเริ่มต้นให้ได้ใช้งานแล้ว






การตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ ของ facebook ของท่าน




      9. วิธีโพสต์สถานะทำได้โดยการใส่คำลงในช่องว่างแล้วกด "แบ่งปัน" ข้อความที่เราใส่ก็จะไปสู่หน้า           facebook ของเพื่อนเรา




วิธีการโพสต์สถานะในหน้า facebook ให้เพื่อนๆ ได้ทราบถึงข้อความที่เราต้องการ
  

     10. วิธีการลบโพสต์ที่เราไม่ต้องการให้ขึ้นในหน้าของเรา ด้วยเหตุผลต่างๆ สามารถทำได้โดยการค              ลิ๊กเครื่องหมาย x ที่มุมของโพสต์นั้นๆ ข้อความนั้นก็จะหายไปจาก facebook ทันที






      11. วิธีการโพสต์รูปขึ้นใน facebook ทำได้โดยการเลือก "อัพโหลดรูปภาพ" จากนั้นก็ตั้งชื่ออัลบั้ม               สถานที่ แล้วเลือก "สร้างอัลบั้ม" จากนั้นจึงเลือกภาพต่างๆ ที่ต้องการ ดังภาพด้านล่างนี้




                รูปภาพท่านสามารถอัพโหลดไฟล์ JPG, GIF หรือ PHG ขนาดไม่เกิน 4 MB



อ้างอิง  http://www.dmc.tv/pages/

Line


Line


LINE คือ

  LINE คือแอพพลิเคชั่นที่ผสมผสานบริการ Messaging และ Voice Over IP นำมาผนวกเข้าด้วยกัน จึงทำให้เกิดเป็นแอพพลิชั่นที่สามารถแชท สร้างกลุ่ม ส่งข้อความ โพสต์รูปต่างๆ  หรือจะโทรคุยกันแบบเสียงก็ได้  โดยข้อมูลทั้งหมดไม่ต้องเสียเงิน หากเราใช้งานโทรศัพท์ที่มีแพคเกจอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว แถมยังสามารถใช้งานร่วมกันระหว่าง iOS และ Android รวมทั้งระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ได้อีกด้วย การทำงานของ LINE นั้น มีลักษณะคล้าย ๆ กับ WhatsApp ที่ต้องใช้เบอร์โทรศัพท์เพื่อยืนยันการใช้งาน แต่ LINE ได้เพิ่มลูกเล่นอื่นๆ เข้ามา ทำให้ LINE มีจุดเด่นที่เหนือกว่า WhatsApp มาดูคุณสมบัติเด่น ๆ ที่น่าสนใจของ LINE กัน

การใช้งาน

LINE@ นั้นมีพื้นฐานมาจากการแซต ความสามารถจึงต่างจากเพจเฟซบุ๊กอยู่บ้าง โดย LINE@ มีความสามารถดังนี้

  • ส่งข้อความหาเพื่อนทั้งหมดในครั้งเดียว (มีค่าบริการ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง)
  • เขียนโพสต์ลง Timeline ให้ทุกคนที่เป็นเพื่อนกับเราเปิดหน้า Timeline เข้ามาเห็นได้ ซึ่งสามารถตั้งให้ส่งข้อความแล้วโพสต์ลง Timeline อัตโนมัติก็ได้
  • คุยกับเพื่อนแบบ 1 ต่อ 1
  • สร้างหน้าบัญชีให้มีรายละเอียดร้านได้ เช่นเบอร์ไทร เวลาปิด-เปิด
  • สร้างคูปอง โปรโมชั่นพิเศษสำหรับคนที่มาติดตาม
  • สร้างแบบสำรวจ สอบถามผู้ใช้เก็บเป็นสถิติได้
  • ตั้งข้อความต้อนรับเมื่อเป็นเพื่อนกันครั้งแรก
  • ตั้งข้อความตอบรับอัตโนมัติเวลาเพื่อนแซตเข้ามามีคีย์เวิร์คที่ระบุ
  • สามารถตั้งเวลาโพสต์ได้
  • ตั้งแอดมินได้หลายคน โดยแยกสิทธิ์แอดมินแต่ละคนได้ มีระดับเขียนเนื้อหาได้ แต่โพสต์ไม่ได้ด้วย
  • สำหรับร้านที่มีตัวตนอยู่บนโลกจริง (ไม่ใช่ร้านค้าออนไลน์) สามารถยื่นเรื่องเพื่อให้เป็นบัญชีที่ตรวจสอบแล้วได้ด้วย ซึ่งจะทำให้น่าเชื่อถือมากขึ้น
การสมัคร

1. ไปที่ app store หรือ play store ในโทรศัพท์ของท่าน แล้วค้นหา Line@ เลยครับ
หรือ โหลด Line@ สำหรับ ios ,โหลด Line@ สำหรับ android
ติดตั้งแล้วเปิด แอพ Line@ ขึ้นมา แล้วสมัครเลย










กดยืนยัน










กดถูก










กรอกข้อมูลครับ displayname กรอกชื่อที่แสดง
Main Business กรอกธุรกิจเรา เลือกใกล้เคียงก็ได้ครับ
Detailed Business รายละเอียดธุรกิจ เลือกใกล้เคียงได้










กรอกไปเลย ไม่ต้องซีเรียส
2.เมื่อสมัครเรียบร้อย เราจะได้ id ที่เป็นแบบนี้ครับ เช่น id ของ ผม คือ  @FZB6409T บอกได้เลยแม้แต่ตัวผมเองก็จำไม่ได้ครับ แต่ Line เค้ามีบริการ id premium ครับ คือ จ่ายค่าบริการ 5.99$ ประมาณ 180 บาท/ปี  ผมก็จะได้ชื่อ  @thewebcoach  เป็นไงครับ จำกันได้แล้วใช่มั้ย ถ้าท่านใช้มือถืออ่าน กดเป็นเพื่อนกับผม The Web Coach ได้เลย
โดยกดปุ่มนี้เลย  


อ้างอิง  http://line.kapook.com/view64457.html